อว. จัดงาน “ดนตรี อว. เทิดพระเกียรติ 5 ธันวาคม 2565” เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ฯ วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้านการดนตรี ดึงวงนักศึกษาจาก 18 สถาบันร่วมถ่ายทอดบทเพลงพระราชนิพนธ์ ให้รับฟังอย่างเต็มอิ่ม 3 -5 ธันวาคมนี้ ที่สวนสาธารณะสำคัญ 3 แห่งของกรุงเทพฯ

อว. จัดงาน  “ดนตรี อว. เทิดพระเกียรติ 5 ธันวาคม 2565” เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ฯ วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้านการดนตรี  ดึงวงนักศึกษาจาก 18 สถาบันร่วมถ่ายทอดบทเพลงพระราชนิพนธ์  ให้รับฟังอย่างเต็มอิ่ม 3 -5 ธันวาคมนี้ ที่สวนสาธารณะสำคัญ 3 แห่งของกรุงเทพฯ

ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร.เอนก  เหล่าธรรมทัศน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า วันที่ 5 ธันวาคม 2565  เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ  รัฐบาลได้กำหนดจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเท่านั้น   แต่พระองค์ทรงเป็นทั้งคีตกวีและนักดนตรีที่ชาวโลกยกย่องถึงพระปรีชาสามารถในด้านการดนตรี  ทรงเป็นองค์บรมราชูปถัมภกทางดนตรี  ทรงส่งเสริมทั้งดนตรีไทยและสากล 

ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ศิลปินดนตรีอย่างทั่วหน้า และเป็นประโยชน์นานัปการแก่สังคมและประชาชนชาวไทย เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยการน้อมนำพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านดนตรี มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างความดีงาม สืบสานศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วมผ่านการแสดงดนตรี 

กระทรวง อว. โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และหน่วยงานในสังกัดทั้งสถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  จึงร่วมกันจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ  ร.9 เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2565 “ดนตรี อว. เทิดพระเกียรติ 5 ธันวาคม 2565”  ขึ้นเป็นปีที่ 2 ซึ่ง “ดนตรี” ถือเป็นอีกหนึ่งศิลป์ที่กระทรวง อว.ให้ความสำคัญ นอกเหนือจากศาสตร์ที่เป็นการสร้างองค์ความรู้ การวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม 

ทั้งนี้ งานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 5 ธันวาคม 2565 ในพื้นที่สวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร จำนวน  3 แห่ง คือ สวนเบญจกิติ ถนนรัชดาภิเษก สวนหลวงพระราม 8  เชิงสะพานพระราม 8  และสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ ถนนกำแพงเพชร 3 ภายในงานจะมีวงดนตรีจากสถาบันการศึกษาในสังกัดกระทรวง อว.  18  สถาบัน หมุนเวียนกันมาร่วมถ่ายทอดบทเพลงพระราชนิพนธ์และบทเพลงต่าง ๆ ในแต่ละวัน อาทิ  วง KU Band and Alumni  วงดนตรีที่มีชื่อเสียงจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ถือกำเนิดมายาวนานกว่า  70 ปี จะมาบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ให้รับฟังกันที่สวนวชิรเบญจทัศ  หรือสวนรถไฟ   ในวันที่ 3 ธันวาคม  วันเดียวกันที่สวนเบญจกิติ จะเป็นวงดนตรี Rangsit University Jazz Orchestra  วงแจ๊สออร์เคสตราแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต  หนึ่งในวงแจ๊สออร์เคสตราระดับนักศึกษารุ่นบุกเบิกในประเทศไทย    และที่สวนหลวงพระราม 8  มีวงดนตรีไทยฉลองขวัญสังคีต  จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร  จะมาบรรเลงเพลงชะตาชีวิต ด้วยวิธีการบรรเลงแบบ “ลูกขัด”เพื่อให้มีทำนองเพลงที่เหลื่อมกัน ฟังเสมือนคลื่นน้ำ ซึ่งเป็นอรรถรสในการฟังเพลงอีกรูปแบบหนึ่ง   

ส่วน วงดนตรี CU Band จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2498 และได้สร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยตลอดจนระดับประเทศ จะมาบรรเลงเพลงให้ฟังในวันที่ 5 ธันวาคม ที่สวนหลวงพระราม 8 ขณะที่สวนวชิรเบญจทัศในคืนวันที่ 5 ธันวาคม จะพบกับวงถั่วงอกสีทอง วงเฉพาะกิจที่เกิดจากการรวมตัวของนักศึกษาวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คละชั้นปี เพื่อบรรเลงบทเพลงของพ่อโดยเฉพาะ และ วง Silpakorn Univ ersity Wind Orchestra  วงดุริยางค์เครื่องลมแห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร  ประชาชน และผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ และผลงานการแสดงดนตรีจากสถาบันการศึกษาได้ตั้งแต่เวลา 17.00 - 20.00 น.